โทร: 0 2428 4574
แฟกซ์: 0 2427 1979
อีเมล์: sombunwit@hotmail.com
จันทร์ – ศุกร์ : 07.30 – 17.30 น.
เสาร์ : 08.30 – 15.00 น.
วันหยุด : เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
เวลาเรียน : 08.30 – 14.30 น.
หมายเหตุ สามารถเยี่ยมชมโรงเรียน ตั้งแต่วันจันทร์- วันศุกร์ เวลา 09.00-11.00 น.
—-
โรงเรียนสมบุญวิทย์
571 ถ.พระราม2 แขวงบางมด
เขตจอมทอง กรุงเทพฯ 10150
การสอนแบบ Montessori
ทำไมถึงต้องใช้แนวการสอนแบบ Montessori
โรงเรียนสมบุญวิทย์ สอนในระบบ Montessori Applied และบูรณาการ ซึ่งเป็นวิธีจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และเป็นการเรียนรู้ที่มาจากชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดสติปัญญาสู่การคิดวางแผน แก้ปัญหาด้วยตัวเอง ปลูกฝังให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมต่อไป
หลักสูตรการสอนแบบ Montessori ดร. มาเรีย มอนเตสซอรี่ เป็นผู้ริเริ่มคิด และจัดตั้งจากความเชื่อในการจัดการศึกษาให้แก่เด็กในระยะเริ่มต้นว่า “จุดมุ่งหมายในการให้การศึกษาในระยะแรกนั้น ไม่ใช่การเอาความรู้ไปบอกให้เด็กแต่ควรเป็นการปลูกฝังให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามความต้องการตามธรรมชาติของเขา” การที่จะช่วยให้เด็กได้เจริญเติบโตไปตามขั้นตอนของความสามารถนั้น ควรจะต้องพัฒนาการสอนให้สัมพันธ์กับพัฒนาการความต้องการของเด็ก ที่ต้องการจะเป็นอิสระในขอบเขตที่กำหนดไว้ให้ ตลอดจนการจัดสิ่งแวดล้อมอย่างสมบูรณ์ และพิถีพิถัน
การสอนแบบ Montessori ได้มาจากการที่ ดร. มาเรีย มอนเตสซอรี่ ได้สังเกตเด็กในสภาพที่เป็นจริงของเด็ก ไม่ใชสภาพที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เด็กเป็น จากการสังเกตเด็กจึงได้พัฒนาวิธีการสอน การจัดเตรียมสิ่งแวดล้อม และอุปกรณ์การสอนต่างๆขึ้นมาใช้
ทฤษฎี Montessori :
หลักสูตรของการสอนแบบ Montessori :
วิถีทางของการเรียนการสอนแบบ Montessori นั้น เป็นหลักการที่คำนึงถึงเด็ก ความต้องการของเด็กในการเรียน ได้มีการตระเตรียมสิ่งแวดล้อมให้เด็กได้ทำงานด้วยตนเอง สิ่งแวดล้อม และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆนั้น ได้จัดระบบไว้เพื่อให้เด็กได้พัฒนาตนเอง โปรแกรมจัดเอาไว้ให้เด็กได้เป็นผู้เรียนที่มีอิสระ การควบคุมความผิดพลาดในการทำงานก็ด้วยการใช้วัสดุเหล่านั้นเอง และสิ่งแวดล้อมที่จัดเอาไว้ให้นี้เอง เป็นตัวที่ทำให้เด็กมีอิสระ
หลักสูตรพื้นฐานสำหรับเด็กอายุ 1 .6 – 6 ปี แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ :
การจัดการเรียนการสอนแบบ Montessori :
โรงเรียนที่ใช้การสอนแบบ Montessori นั้น กิจกรรมถือเป็นส่วนสำคัญของสิ่งต่างๆที่ดำเนินไปในโรงเรียน เด็กเล็กควรจะเรียนด้วยร่างกายทั้งหมด โดยเน้นทางด้านการฝึกฝนทางประสาทสัมผัส กิจกรรม หรืองานที่เด็กทำจะต้องมีความหมาย อุปกรณ์การเรียนได้วางรูปแบบเอาไว้ให้เด็กได้ทำงานต่างๆ เป็นไปตามขั้นตอนซึ่งจะกระตุ้นให้เด็กได้ทำงานต่อไป การเขียนก็เป็นจุดรวมของทั้งการเห็น การได้ยิน และการสัมผัส การแสดงออกทางการเขียนจะผ่านขั้นตอนต่างๆ จากการสัมผัสรูปทรง เรขาคณิต สัมผัสรูปพยัญชนะ สระ จากบัตรตัวอักษรและกระดาษทราย ใช้ดินสอสีลากไปตามกรอบแผ่นภาพโลหะ และเติมลายเส้นไปในกรอบแผ่นภาพโลหะที่ว่างไว้ ประสมคำโดยใช้ตัวอักษรต่างๆ และเขียนคำลำดับจากรูปธรรมไปสู่นามธรรมนี้ เป็นแนวคิดแฝงอยู่ในการจัดอุปกรณ์การเรียน
ในการทำงาน ครูจะต้องคอยสังเกตว่า เด็กพร้อมที่จะเรียนอุปกรณ์ในขั้นตอนต่อไปหรือยังตามลำดับความยาก – ง่าย หรือตามที่นักเรียนร้องขอ
การแสดงอุปกรณ์ มี 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ :
การสอนแนวนี้จะเปิดโอกาสให้เด็กได้ค้นพบสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง โดยเน้นการฝึกฝนทางด้านประสาทสัมผัสมือทั้งสองข้างของเด็กๆ ซึ่งถือว่าเป็นครูคนสำคัญของเด็ก และแนวคิดนี้เชื่อว่าถ้าเด็กได้มีบางสิ่งบางอย่างที่ จะจับต้องและบิด หรือหมุน ด้วยมือ สมองจะทำหน้าที่ตอบสนองได้
วัสดุอุปกรณ์ จึงจัดว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสอนแนวนี้ ความมีอิสรภาพ การศึกษาด้วยตนเอง และการฝึกฝนทางประสาทสัมผัสนี้เอง คือจุดสำคัญของการสอนแนว Montessori ที่ใช้กันทั่วโลกจนถึงปัจจุบันมากว่า 100 ปี
โรงเรียน Montessori ทั่วโลก จะใช้อุปกรณ์การสอนแบบเดียวกันทั้งหมด ขณะเดียวกันก็มีการอนุโลมให้ใช้อุปกรณ์บางอย่างที่ทำจากวัสดุท้องถิ่น แต่ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางการเรียนรู้ที่กำหนด
ห้องเรียนของการสอนแนวนี้ จะมีลักษณะพิเศษ คือเปิดโล่ง เด็กจะได้ทำกิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการของตน ในห้องเรียนจะไม่มีโต๊ะและเก้าอี้ครู ภายในห้องมีชั้นวางของ ซึ่งอยู่ในระดับสายตา บนชั้นมีอุปกรณ์ Montessri จัดวางไว้เป็นหมวดหมู่ มีตำแหน่งการวางที่แน่นอน และมีเพียง 1 ชิ้น ต่อ 1 อุปกรณ์ เพื่อฝึกให้เด็กได้รู้จักรอคอย
ครูผู้สอนจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการสอน จากศูนย์ฝึกอบรมครูของระบบการสอนแบบ Montessori การประเมินผลของระบบ Montessori จะใช้การสังเกตความสามารถ ในการทำกิจกรรมของเด็กในแต่ละกลุ่มวิชาการ ใช้อุปกรณ์การเรียนในแต่ละชั้น